Tuesday, August 02, 2005

Gaudi (เที่ยวสเปนตอน 1)

พอดีเขียนเกี่ยวกับมรดกโลกเลยนึกขึ้นได้ว่า ในปี 2005 นี้ UNESCO ก็ได้ประกาศให้ ผลงานอีกสี่ชิ้นของ Antoni Gaudi สถาปนิกชาวคาตาโลเนีย (เมืองบาร์เซโลน่าในปัจจุบัน) ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วเหมือนกัน อันได้แก่ Casa Vincens, Sagrada Familia Cathedral, Casa Batllo และ Crypt in Colonia Güell จนถึงวันนี้นับได้ว่า Gaudi มีผลงานที่เป็นมรดกโลกรวมแล้วเจ็ดชิ้นด้วยกันแล้ว

Gaudi เป็นสถาปนิกที่ผมเองตอนเรียนอยู่รู้จักแค่ว่า งานของพี่แกจะเป็น ลวดลายกระเบื้องเคลือบพร้อยๆ พร้อมกับดีไซน์หลุดโลก (คิดไปถึงว่าหมอนี่ต้องเป็นเกย์แน่ๆ) และก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ไปกว่าพลิกๆ ดูในหนังสือภาพ ด้วยเห็นว่าดูมากไปก็เอามาใช้อะไรกับงานเรียนของตัวเองไม่ได้ เพราะมันเป็นอัจฉริยภาพส่วนบุคคลที่ผมไม่สามารถนำไปพัฒนาต่อได้ (หรือแปลว่าว่าเลียนแบบไม่ได้นั่นเอง)

แล้วก็ตัวผมเองได้มีโอกาสไปเที่ยวบาร์เซโลน่า และนอกจากงานของ Gaudi แล้วยังมีงานของศิลปินคนอื่นๆ ที่ร่วมสมัยนั้นอีก เช่น Salvador Dali และ Juan Miro แล้วก็รู้สึกว่างานศิลปะของสเปนนี่มันมีกลิ่นคล้ายๆ กันเหมือนกัน งานของ Gaudi ที่ผมได้เห็นกับตาตัวเองมีด้วยกัน 4 ชิ้นจากทั้งหมด 7 ชิ้นทีเป็นมรดกโลก คงได้แต่บอกกับตัวเองว่า "เออ มึงแน่จริงๆว่ะ" เพราะงานของ Gaudi มันต้องการทั้ง Intellectual และ Skill (ในเชิงช่าง) ในระดับสูงมาก โดยผมจะเล่าให้ฟังแค่สองชิ้นนะครับ คือที่ Sagrada Familia Cathedral และที่ Parque Güell

Sagadra Familia เป็นโบสถ์ที่สร้างมาร้อยกว่าปีแล้ว จนทุกวันนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จ เพราะงานออกแบบของ Gaudi มีรายละเอียดมากและใช้งบประมาณในการก่อสร้างสูง ส่วนตัว Gaudi เองนั้นเป็นคาทอลิก ซึ่งหนึ่งในความศรัทธาสูงสุดคือการสร้างโบสถ์ เพราะเป็น contribution หนึ่งที่มนุษย์จะแสดงศรัทธาต่อพระเจ้าได้ ในทำนองเดียวกันกับที่ Michelangelo สร้างโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ Gaudi ใช้เงินส่วนตัวทั้งหมดที่ได้จากการประกอบอาชีพสถาปนิก ตลอดจนถึงรับบริจาคจากผู้ศรัทธาสร้างโบสถ์หลังนี้

ผมว่างานชิ้นนี้เป็น Master piece ของ Gaudi เลยก็ว่าได้ และก็ได้สร้างความเข้าใจงานออกแบบของ Gaudi ให้กับตัวเองมากขึ้น (เยอะ) หนึ่งในความน่าสนใจของงานชิ้นนี้คือ ความเข้าใจทางวิศวกรรมอย่างดีนอกเหนือไปจากความเป็นศิลปินที่มีอยู่สูงในตัว Gaudi

Gaudi ออกแบบงานชิ้นนี้โดยอาศัยจินตนาการจากธรรมชาติ แต่ที่น่าทึ่งคือรูปนี้ครับ
รูปนี้คือ outline ของรูปทรงโบสถ์หลังนี้ที่ Gaudi ใช้ถุงทรายผูกเชือกแล้วปล่อยให้แรงโน้มถ่วงสร้างรูปทรงขึ้นมาเอง คนที่มีความรู้ทางวิศวกรรมซักนิดจะรู้ว่า รูปทรงโบสถ์ที่กลับหัวอยู่นี้แล้ว member ของโครงสร้าง (ซึ่งก็คือเชือก) ที่รับแรง Tensile อยู่นี้ เมื่อกลับหัวให้เป็นปกติแล้ว ทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นแรง Compression หมายความว่า แทน member ของเส้นเชือกด้วยโครงสร้างคอนกรีต ก็เป็นอันเสร็จเลย เหลือแต่เติมรายละเอียดแบบศิลปะคาตาโลเนียเท่านั้น ส่วนมากเป็นเรื่องราวธรรมชาติ เช่นเสาก็ให้จินตนาการถึงต้นไม้ (หลักๆ แล้วความคิดสร้างสรรค์ของ Gaudi เป็น Metaphoric นะครับ)อีกทั้งทั้งมีงานแกะสลักแบบนูนสูงนูนต่ำอยู่รายรอบ (แถมเป็นแบบ Cubism ซะด้วย)


มันช่างเป็นเรื่องธรรมชาติทั้ง imagination และ logic พร้อมๆกันเลย
"Form follow Nature!!!!"
โคตรโมเดิร์นเลยว่ะพี่!!!ชอบมั่กๆ


รูปนี้ถ่ายจากภายในครับ เข้าไปแล้วเหมือนอยู่ในป่า

อันนี้ลวดลายภายนอก


สวยไม่สวยดูเอาเองนะครับ (น่าไปตั้งที่แหลมคานาวารัลเนอะ ยาน Discovery คงอาย)
ปล ตอนนี้อาศัยเงินค่าเข้ามาสร้างต่อ

อีกชิ้นคืองานออกแบบสวนสาธารณะขนาดใหญ่กลางเมืองบาร์เซโลน่า หรือ Parque Güell อันนี้เข้าฟรีครับ ตัวสถาปัตยกรรมนั้นไม่มีอะไรมากครับ ที่น่าสนใจคือ ลวดลายกระเบื้องเคลือบที่จัดจ้านและปราณีต อีกทั้งยังแม่นเรขาคณิตด้วย (ตอนแรกผมคิดว่างานแกเป็น Free form เฉยๆแต่จริงๆแล้วมีพื้นฐานเรขาคณิตในลวดลายที่ดีมาก) ที่มันโดดเด่นในสมัยนั้นเพราะGaudi เป็นต้นคิดเรื่องการเอาเศษกระเบื้องที่สมัยนั้นไม่มีใครสนใจเพราะมันไม่เต็มแผ่น มาสร้างเป็นศิลปะที่ปัจจุบันก็ยังมีอิทธิผลต่องานออกแบบ โดยเฉพาะในงานออกแบบสไตล์เมดิเตอเรเนียน




สามรูปนี้ที่ Parque Güell นะครับ
แล้วค่อยพบกับเที่ยวสเปนตอน 2

1 Comments:

At August 04, 2005 8:15 AM, Anonymous Anonymous said...

โห ... เห็นแร้วพูดไม่ออกเลยอะ อยากไปมั่งจัง พี่ม้ากกลับมาแล้วว่างๆเอารูปมาจัดเรียงพร้อมภาพประกอบนะ จะขอซื้อซักเล่ม

 

Post a Comment

<< Home