KZ-Dachau
"Dachau - the significance of this name will never be erased from German history. It stands for all concentration camps which the Nazis established in their territory."..Eugen Kogon..
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 1933 Heinrich Himmler ได้สั่งให้สร้างค่ายกักกันขึ้นที่เมือง Dachau และนั่นคือจุดกำเนิดของโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของมวลมนุษยชาติ
ปีนี้เป็นปีที่ในเยอรมันพูดถึงเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สองกันมากที่สุดปีหนึ่ง เนื่องจากเป็นปีครบรอบ 60 ปีแห่งการปลดปล่อยค่ายนักโทษทางการเมืองแห่งนี้
ค่าย'ดาเคา' (Dachau concentration camp)อาจถือได้ว่าเป็นรากฐานสำคัญของพรรคนาซี และเป็นต้นแบบของค่ายกักกันชาวยิวที่น่าสยดสยองทั่วโลก โดยเฉพาะ 'ห้องรมแก๊ส' (Gas chamber)ที่สังหารหมู่ชาวยิวไปกว่า 6 ล้านคนในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อแรกเริ่มนั้นสมัยที่ฮิตเลอร์ เรืองอำนาจในช่วงต้นๆ ค่ายนี้ถูกสร้างขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์สองประการ ประการแรกคือเป็นที่คุมขังนักโทษทางการเมืองที่มีความเห็นขัดแย้งกับพรรคนาซี และ ประการที่สองใช้เป็นโรงเรียนที่ฝึกหน่วยสังหาร 'SS' (Schutzstaffe)ที่เป็นหน่วยทางหารที่ขึ้นตรงต่อฮิตเลอร์ และมีส่วนสำคัญในแผนการรักษาอำนาจของอาณาจักรไรซ์ที่สาม ไม่ว่าจะเป็นการลอบสังหาร การให้ร้ายศัตรูทางการเมือง การสร้างสถานการณ์และปูทางสู่อำนาจที่ชอบธรรมต่อพรรคนาซี
นาซีได้สร้างค่ายกักกันชาวยิวขึ้น โดยใช้ค่าย 'ดาเคา' แห่งนี้เป็นต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็น แผนผังเรือนนักโทษ ศุนย์บัญชาการค่าย ตลอดจนถึงห้องรมแก๊ส ที่เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดทั่วยุโรปในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเฉพาะที่ ค่าย 'เอ้าสวิช'(Austwitzch) ในโปแลนด์ นับเป็นค่ายที่ใหญ่ที่สุด ที่ชาวยิวจำนวนกว่า 2 ล้านคนถูกสังหารหมู่ (Genocide) อาจกล่าวได้ว่าค่ายกักกัน ใช้เป็นตัวชี้วัดอย่างดีถึงความสำเร็จในการแผ่อำนาจของพรรคนาซีในสมัยนั้น
นาซีได้สร้างค่ายกักกันชาวยิวขึ้น โดยใช้ค่าย 'ดาเคา' แห่งนี้เป็นต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็น แผนผังเรือนนักโทษ ศุนย์บัญชาการค่าย ตลอดจนถึงห้องรมแก๊ส ที่เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดทั่วยุโรปในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเฉพาะที่ ค่าย 'เอ้าสวิช'(Austwitzch) ในโปแลนด์ นับเป็นค่ายที่ใหญ่ที่สุด ที่ชาวยิวจำนวนกว่า 2 ล้านคนถูกสังหารหมู่ (Genocide) อาจกล่าวได้ว่าค่ายกักกัน ใช้เป็นตัวชี้วัดอย่างดีถึงความสำเร็จในการแผ่อำนาจของพรรคนาซีในสมัยนั้น
พรรคนาซีปิดหูปิดตาคนเยอรมันไม่ให้รู้ถึงการกระทำอันโหดร้ายของตนเอง ยิ่งห่างจากเยอรมันเท่าไหร่ ความโหดร้ายของค่ายกักกันก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะฉะนั้นในค่ายแห่งนี้ตลอดจนค่ายอื่นๆในเยอรมันนี้จึงไม่มีการสังหารหมู่ ใช้เพียงคุมขังนักโทษทางการเมืองเท่านั้น ภายหลังเมื่อเยอรมันพ่ายแพ้สงครามโลก ค่ายกักกันทั่วโลกจึงได้ทยอยปลดปล่อยเมื่อวันที่ 29 เมษายน 1945 ค่ายกักกัน ณ เมือง Dachau ได้รับการปลดปล่อยโดยกองกำลังพันธมิตร และเป็นอันสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองลง
posted by Nattawut @ 2:38 AM
5 Comments:
คนแรก!!!
คนที่สอง
I saw this one too na p' Mark :)..mink
Oh I see
Coz you passed aroung Munich, weren't you
yeah!!! it was so hot and dry on the day we went, we had a very good tourguide. This camp built for grounded political prisoner like you said, for about 200 people but somehow it end up to 2000 prisoner, even german too! That's why they start building the gas chamber to minimise prisoner, though they never really had chance to use to that much because most of prisoner rather killed themselve by running to the electric fence (as the sculture in front of the camp)
Did you see the real camp inside? with the bed, there were about 50 bed in each unit but there were over 500 prisoner in one cottage, so they have to laid in bed on each other at night, again they had only 2 toilets, so they said the people who laid on top of the bed in damnn lucky as they will just urine and dump thier waste, so if you sleep in the lower bed, you would be shower by waste from peple above you. Just like that !!! :)))) wicked ehe?...Mink
Post a Comment
<< Home